สะสม พบประเสริฐ โค้ชทิพพ์ของเหล่าทีมยักษ์ใหญ่
โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ
นักฟุตบอล, โค้ช, นักวิจารณ์
หากใครได้ติดตามการถ่ายทอดสดฟุตบอล ไม่ว่าจะทางช่อง PPTV หรือ True sport เราน่าจะคุ้นเคยกับเสียงของ โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ ที่จะเข้ามาวิเคราะห์และวิจารณ์เกมในช่วงพักครึ่ง แต่ถึงกระนั้นในศึกยูโร และโคปา อเมริกา ที่กำลังแข่งขันกันอยู่นี้ เสียงของ โค้ชเตี้ย จัดว่ายังก้องอยู่ในโซนประสาทไม่ต่างกับโฆษณารองเท้าแอโร่ซอฟ เพราะเจ้าตัวเล่นวิ่งรับงานนักวิจารณ์ตั้งแต่คู่หัวค่ำยันช่วงสายของวัน นั่นจึงทำให้ในวันนี้เราจะมาย้อนดูประวัติของโค้ชเตี้ยกัน ว่ากว่าจะมาเป็นโค้ชทิพพ์ของเหล่าทีมยักษ์ใหญ่ เจ้าตัวต้องผ่านกับอะไรมาบ้าง
โค้ชเตี้ย จริงๆมีชื่อเล่นว่า ป่อง เริ่มต้นตัวเองจากเป็นนักฟุตบอลเดินสาย แต่กว่าจะได้เล่นฟุตบอลระดับสโมสร ก็ต้องรอถึงอายุ 25 ปี โดยสโมสรแรกที่เข้าไปสังกัด คือ ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งถือว่าเป็นมหาอำนาจของลูกหนังในสมัยนั้น เพราะสามารถก้าวไปถึงการเป็นรองแชมป์ทวีปเอเชีย จากการรับใช้ทัพรวงข้าวเป็นเวลา 5 ปี กองกลางเจ้าของความสูง 161 ซม. ก็ได้ย้ายไปอยู่กับทีมมหาอำนาจยุคใหม่อย่าง บีอีซี เทโรศาสน จนเลิกเล่นในวัย 35 ปี ส่วนการติดทีมชาติไทย โค้ชเตี้ย ได้ลงสนามไปทั้งสิ้น 8 นัด ยิงได้ 1 ประตู สะสม พบประเสริฐ โค้ชทิพพ์ของเหล่าทีมยักษ์ใหญ่
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล โค้ชเตี้ย ได้ไปอบรมโค้ชในหลักสูตร UEFA – A License by Deutscher Fussball-Bund ที่ประเทศเยอรมัน แล้วกลับมารับงานคุมทีมชาติไทยชุดเยาวชน (U14 กับ U-16) ก่อนจะกระโดดมารับงานคุมสโมสรเก่าอย่าง บีอีซี เทโรศาสน 1 ปี และอำลาสนามไปรับงานนักวิจารณ์ที่ True นาน 4 ปี กระทั่งชื่อของ โค้ชเตี้ย กลับมาอีกครั้งในปี 2009 กับการคุมทีมการท่าเรือไทย เอฟซี พร้อมกับสร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ ทั้งๆที่ตัวผู้เล่นไม่ได้โด่งดัง ร้อนไปถึง บุรีรัมย์ เอฟซี ที่ถึงขั้นติดต่อให้ไปคุมทีมเมื่อปี 2011 จากนั้น โค้ชเตี้ย มีแวะเวียนไปรับงานทีมชาติในชุด U-16 กับ U-19 ขณะที่งานสโมสร พาแบงค็อก ยูไนเต็ด กับ แอร์ฟอร์ซ เซนทรัล เลื่อนชั้นจากลีกรอง ส่วนงานในปัจจุบันคุมทีม ชลบุรี เอฟซี ด้วยตัวผู้เล่นที่ล้วนเป็นเด็กปั้น มาตั้งแต่ปี 2019
จากเส้นทางของ โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ จะเห็นได้ว่าสมัยเป็นนักเตะนั้นเก่งในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ถึงขั้นสุดในรุ่น ส่วนการมาเป็นโค้ช จัดว่าสุดในรุ่นและในไทยเลยก็ว่าได้ รวมถึงการเป็นนักวิจารณ์ที่คงไม่มีใครเทียบแกได้ เพราะด้วยประสบการณ์อย่างยาวนาน พร้อมกับมีลีลาการวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมและค่อนข้างแม่นย้ำ ทำให้เชื่อว่าเจ้าพ่อแห่งการเป็นนักวิจารณ์ฟุตบอลในเมืองไทย จะยังคงเป็นของโค้ชเตี้ยไปอีกตราบนานเท่านาน
#สะสม พบประเสริฐ โค้ชทิพพ์ของเหล่าทีมยักษ์ใหญ่